Tag Archives: เอ็มสตาร์

AIMSTAR งาน The Winner #54

มาตรฐาน

THE WINNER#54
@ Challenger Hall IMPACT Muangthong Thani

เดอะ วินเนอร์ ครั้งที่ 54 !!! ตอนแรกที่ได้ยินเรานึกว่ามีปีละครั้งซะอีก แล้ว 54 ก็นึกว่าบอกปีอะ (^^”) ก็เห็นในรูปคนเยอะมากๆๆๆๆ คิดว่าเออ ปีนึงมีปี เค้าก็เลยมากันเยอะละมั้ง นั่งรถมาจากต่างจังหวัดกันด้วยอะเน๊อะ … เราสมัครเดือนที่แล้ว เริ่มทำจริงจังเดือนนี้ และเข้า THE WINNER ครั้งแรกวันนี้ 🙂 หนีบลูกไปด้วย 2 คนซ้ายขวาพอดิบพอดี ♥ ลูกๆที่เหลือสมัครแล้วไม่ยอมมา ส่วนมากจะบอกว่าติดวันไหว้สารทจ​ีนกัน (ฟังดูอ้างนิดๆ..มันไหว้เช้าไม่​ได้หร่อฟะ?? ตามมาก็ได้) แต่็ก็นะ..ตั้งใจอยู่แล้วว่า ถึงไม่มีใคร​มาด้วยก็จะมามันคนเดียวนี่แหล่ะ​ มาศึกษาเองก่อนจะได้ไปเล่าไปชวนถูก มันเป็นยังไง? นี่เอาจริงวันนี้มีมา 2 คนที่ 2 ตามมาบ่ายก็ยังถือว่าเกินความคาดหมายแล้วนะ ฮ่าฮ่า

https://i0.wp.com/a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-snc6/228851_146950892057568_141134372639220_273652_7596245_n.jpg

– – – – – –

สิ่งที่พบเจอใน THE WINNER #54 ♥

  • คนมากมายเป็นหมื่นๆ จริงตามรูปเลย มีมาจากทั่วประเทศไทย บางคนมากันเป็นรถตู้เลยทีเดียว อลังการดีแท้
  • เสียค่าบัตรเข้างาน 150 บาท ไม่มีอะไรให้เลย สมุด,ปากกา ฯลฯ กรุณาเตรียมไปเอง ไม่เหมือนสัมมนาที่อื่น (ปกติส่วนมากมักแจก)
  • ตอนเข้างานยื่นบัตรไปคุณจะได้เป็น STAR ทันที !! 🙂 ปั้มรูปดาวที่แขน ส่วนนึงของดาวเขียนว่า “รักการเรียนรู้” น่ารักดีอะ
  • หาที่นั่งตามใจชอบ หากมี UL ผู้นำทั้งหลายลองถามดู ส่วนมากจะมาจองที่ดีๆให้ตอนเช้า
    (ที่ดีๆก็คือหน้าๆอะคะ จะได้รับพลังเต็มๆเยอะๆชัดๆ … ส่วนตัววันนี้ถือว่าดีมากตรงกลางพอดีแป๊ะ ไม่ไกลเท่าไหร่ห่างมา10กว่าแถว)
  • ธีมงานคราวนี้คือ เปิดตัวมนุษย์เงินล้าน aimstar คนที่ 10

– – – – – –

ก่อนเริ่มงานไม่นานมีคนนั่งพื้นด้านหน้าเวทีและทางเดินแถวกลางเต็มไปหมด
ส่วนมากต่างจังหวัด ประมาณว่าไหนไหนก็มาแล้วนั่งตรงไหน มีเก้าอี้ไม่มีก็อยากฟัง !! ทุ่มทุนกันสุดๆ

เริ่มงาน 9:00 คุณหมอลพา กล่าวเปิดงาน และแสดงวิสัยทัศน์ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาฟัง
อัพเดทข่าวคราวการเจริญเติบโตของบริษัทกันนิดนึง

  • ปีนี้เอมสตาร์ได้ไปเปิดที่ USA มาเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. แล้วรู้ไหมคะเพียง 3 เดือน (Q1แค่เนี้ย)
    มีคนทำได้ระดับ Sappire Star ที่มีรายได้ 150,000 – 200,000
    แสดงว่า ในขณะที่พี่ไทยเราทำกันแบบชิวๆ เดินไป อีกด้านที่ USA มีใครบางคนกำลังวิ่ง !!
  • เรานักธุรกิจในไทย ประเทศแม่ของบริษัท มีผลิตภัณฑ์หลากหลายกว่า USA  มีเพียงตัวเดียว
    ณ ตอนนี้คือ น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว แต่ขายดีสุดๆ จนต้องกำหนดให้ซื้อเพียง 2 กระปุก/คน
    หรือเพื่อให้เพียงพอต่อการรักษายอดเท่านั้นแหล่ะ ตอนนี้ที่นู่นไม่มีแพค 8 สุดคุ้มแบบเรานะคะ

แล้วเรียนกันต่อกับ คุณหมอพนินทร์ ท่านพูดเรื่องแนวคิดดีมากๆ
มีแีทรกนำคนเก่งๆระดับ dimond star มาเล่าประสบการณ์ในการทำ aimstar ให้ัฟังเพลินๆ
แต่ก็มีบางคนที่ยังไม่ได้มีตำแหน่งสูงอะไรแต่ หมอพนินทร์ เดินมาเลือกขึ้นเวทีไป ก็สามารถพูดได้ดี ^^

ประทับใจพี่ taxi ที่นั่งพื้นด้านหน้าคุณหมอเชิญขึ้นมา เค้าก็พูดแป๊ะๆเหมือนได้ตำแหน่งเลย 55
แนะนำตัว ชื่อ..อาชีพ.. ผู้เปิดโอกาส… ผู้สอนงาน… เสร็จสรรพ หมอท่านถามคำถามนิดเดียวเอง
แต่ถือว่าเกิดเลยนะ วิธีแนะนำพี่เค้าเลิศมาก เปิดซีดีแบ่งปันประสบการณ์ตอนขับ taxi
ทำมาไม่กี่เดือนมี DL เป็นสิบแล้วนะ ไม่ธรรมดา 🙂

  • แอบไปกินข้าวก่อนเค้าปล่อยพักเที่ยง คนจะไม่เยอะมาก พอหาที่นั่งได้อยู่ ( อันนี้นิสัยไม่ดี ไม่ควรเลียนแบบ)
    พอดีพกแม่ไปด้วยน่ะ จะให้ท่านหิ้วท้องกิ่ว นั่งหิวๆก็สงสารท่านน่ะ ขอโทษจริงๆ
    คราวหน้าจะเตรียมตัวมากกว่านี้ พกอะไรนิดๆหน่อยๆมาไว้เผื่อ
  • ห้องน้ำข้างในคนจะเยอะมากกกกกกกกก ให้เดินไปเข้าด้านนอกจะไวกว่ามาก

กำลังจกไก่ KFC ปากมันอยู่เลย UL โทรมาตามอยู่ไหนอะ? อ่า… กินข้าวอะ
เค้ากำลังเปิดตัว ” มนุษย์เงินล้าน aimstar คนที่ 10 ” แล้วนะ !! อ้าวหร่อ โอเคๆ
รับกลับเข้าไปใหม่อีกรอบ ทันพอดีเห็น “สุไลมาน ดาดา” พูดอยู่บนเวที
อ๊อ… คนนี้เอง เคยเห็นใน youtube อยู่กลุ่ม together นี่นะ
ช่างพลังเยอะจริงๆ ฟังแล้วสุดยอดค่า พลังล้นเหลือมาก !!!

ตอนเค้าปล่อยพักไปทานข้าว เราก็เลยไม่ได้ไปไหนอะก็นั่งอยู่ในนั้นแหล่ะ
คุยกับ UL DL SL ไซด์ไลน์ก็คุย คุยกันหมด อัพไลน์ ดาวไลน์เอาให้ถ้วนทั่ว
ถ้ามาแล้วไม่สามารถทำความรู้จักใครเพิ่ม รู้สึกไม่ค่อยคุ้มไหม?
เหมือนไปโรงเรียนน่ะคะ ถ้าเรามีเพื่อนรู้จักไว้มากๆไว้ก่อน
คราวหน้ามาเจอไม่ครบแต่อย่างน้อยเราก็อุ่นใจเน๊อะว่ายังรู้จักใครบ้าง
ฉะนั้นถ้าพาใครไปก็อย่าลืมแนะนำเค้าให้คนอื่นรู้จักกัน อย่างน้อยก็กับ UL นะคะ

– – – – – –

ช่วงบ่าย .. เข้าเรื่อง business ล๊ะ ประกอบกับนักธุรกิจขึ้นมาแชร์ประสบการ์ณกันนิดหน่อย

คนเก่งมักเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเอง
คนฉลาดมันจะเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นๆ
แต่คนที่ฉลาดที่สุดคือเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนสำเร็จ

– – – – – –

ตอนเลิกงานมี AFTER กันนิดนึง ดีใจที่ลูกเราเข้าใจ get มากขึ้น
จากเดิมที่อธิบายอย่างไรก็ไม่เข้าใจ ไม่เห็นภา่พ ไม่เคยสัมผัสบรรยากาศ
คนที่ให้…มีจริงหร่อ? ไม่ต้องขายแล้วจะได้อย่างไร? คนเยอะแยะจ้างมารึเปล่า?
มาทีเดียวคุ้มเลยมาพิสูจน์ด้วยตา สัมผัสด้วยใจดูว่ามันดีจริงอย่างที่เราบอกไหม

กำลังนั่งพูดๆอยู่ “กลุ่มเราีมีสื่อ…สนับสนุนดีมาก พี่ทอม ธเนศ…. ”
แล้ว…พี่ทอมก็เดินผ่านข้างหลังพอดี หันมาบอก ” พี่ตายยากม๊ะ ”
ฮาาาาาา มาได้ไงอะ ปีนี้ไม่ได้ขึ้นเวทีพูดซะหน่อย
ช่วงนี้เห็นตาราง GOOD LUCK บานเต็มแน่นแทบทั้งเดือน

หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุน ถ่ายรูป, ขอลายเซ็น
คนใหม่ๆถึงกับงง ใครหร่อ? ซุปตาที่ไหนกัน? 55 เอาเป็นว่าซุปตาของกลุ่มละกันพี่
เดี๋ยวถ้าพี่ดู CD แล้วพี่ก็จะรู้เองแหล่ะ เราก็เพิ่งเคยเจอนะ ปกติเห็นแต่ใน CD
แล้วก็อย่างที่บอก เพิ่งทำได้ไม่ถึงเดือนเลยอะ ก็ไม่แปลกที่จะไม่เจอ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเจอไวขนาดนี้

ขอถ่ายรุป ๆ 🙂 เอากะเค้าบ้าง UL ผู้น่ารักแนะนำพรีเซนต์เสร็จสรรพ
คนนี้มาใหม่นะพี่เดือนแรกจะปิด Silver แล้ว พี่ทอมหันมาจับมือเลย
“โห้ววววว เก่งมาก” โอ้ย… เิขินปะละ ไปไม่เป็นเลย ยังไม่ได้ซะหน่อย
กะไว้คร่าวๆ มาร์กๆดูมันน่าจะได้เฉยๆ แต่ยังไงก็ปลื้มนะ คนเก่งๆชม
เก็บความรู้สึกไว้ ถ้าัวันนึงเราีมีความสำเร็จบ้างเราก็ต้องอย่าลืมชื่นชนคนอื่นนะคะ
มันอาจะจดูเล็กๆน้อยๆ แต่มันยิ่งใหญ่ในความรู้สึกเค้าเน๊อะ

– – – – – –

สุดท้า่ย ถามว่า วันนี้ประทับใจอะไรมากที่สุด?

คงเป็นบรรยากาศที่อบอุ่น แล้วก็คุณหมอทั้งสองท่าน ทั้งคุณหมอลพา และคุณหมอพนินทร์ ท่านมีใจที่สุดยอด ^-^ มีแต่ให้ เชื่อแล้วว่า มันเป็นงานของคนมีบุญ มีบุญแล้วถึงจะเห็นว่ามันเป็นงานแห่งการให้นะ คุณค่าของมันคือ ให้โอกาสคนอื่นได้ ส่งต่อได้ ไม่ได้ทำแล้วสำเร็จคนเดียว เราต้องส่งต่อความสุขไปเรื่อยๆ เราก็จะมีความสุขไปด้วยกัน ความสวยงามของธุรกิจเครือข่าย เห็นเป็นอะไรที่จับต้องได้ก็ที่ เอมสตาร์เนทเวิร์ค นี่แหล่ะ มาทีไรเจอแต่คนดีๆ หวังดี มีแต่จะให้ แผนมันเอื้อให้เราเป็นแบบนั้น ยิ่งให้ยิ่งได้ จริงไหม? อย่างน้อยเราก็สุขใจแล้วล่ะที่เค้าโอเคขึ้น ดีขึ้น มีโอกาสได้เจออะไรที่ดีๆ

ก่อนหน้านี้ไม่เคยเชื่อเลยว่าอะไรแบบนี้จะทำได้จริง? คิดว่าคนเสียหายกันมากเพราะความโลภ ไม่ได้มองว่าเครือข่ายไม่ดีนะ แต่มองว่า motivate กันแบบเยอะเว่อร์ คนอยากได้ก็ต้องหามาให้ครบจนได้ ไม่ว่าะเสียค่าแรกเข้าแพงๆ , จ่ายเงินโบนัสแบบขั้นบันได แถมการซื้อสินค้า เก็บ PV หรือคะแบบก็หามาในวิธีผิดๆ รูดบัตรเครดิตซื้อของ เป็นหนี้ก้อนโตติดมาอีก??

สิ่งที่สร้างได้ด้วยตัวเอง คือ ทัศนคติที่ดี
คิดบวก ++ จะดึงดูด มีพลังดึงดูดสิ่งดีๆ

~ AIMSTAR REALITY ~

ps. ง่วงมาก.. เมื่อเช้าตื่นเช้ามาก สัมมนาทั้งวัน นั่งเมื่อยแต่…ไม่เสียใจที่ไปค่ะ คราวหน้าไปกันอีกเยอะๆนะ ^^

 

ความคิดที่แตกต่างระหว่าง คนรวย กับ คนจน – โรเบิร์ต คิโยซากิ

มาตรฐาน

“โรเบิร์ต คิโยซากิ” ชื่อนี้คงจะคุ้นหูกันดีนะคะ
สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือทางด้านพัฒนาตนเอง
แต่สำหรับเพื่อนๆคนใดที่ยังไม่รู้จักเราจะพาไปรู้จักกับเขาวันนี้แหล่ะ

โรเบิร์ต คิโยซากิ เป็นผู้ที่นำความลับคนรวยซึ่งมักจะถูกถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น
มาเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้ทราบกัน ผ่านหนังสือขายดีที่เรารู้จักกันดี
ในตระกูล พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad)
ซึ่งเป็นหนังสือที่โด่งดังมาก ปัจจุบันมีเกือบ 20 เล่ม
ถูกตีพิพม์มากกว่า 26 ล้านก๊อปปีี้ขายดีมากกว่าแฮรี่ พ๊อตเตอร์
ถูกแปลมากกว่า 40 ภาษาทั่วโลก

https://www.richdadcoaching.com/assets/images/robert_rich_dad_book.jpg

โรเบิร์ต คิโยซากิ ปัจจุบันนี้เป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาศัยอยู่ที่อเมริกา
เขาเกิดและเติบโตในฮาวาย เขาเรียนรู้ธุรกิจจากคน 2 คน
คนแรกคือพ่อจนผู้ซึ่งมีความรู้สูง เป็นข้าราชการเงินเดือนสูงและเป็นพ่อแท้ ๆ ของเขาเอง
และอีกคนหนึ่งคือ พ่อรวย เป็นนักธุรกิจร้อยล้าน
ซึ่งออกจากโรงเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมสองเท่านั้น เป็นพ่อของเพื่อนสนิทของเขาเอง

สาเหตุที่เขาเรียกพ่อแท้ของเขาว่าพ่อจนไม่ได้หมายความว่าพ่อแท้ของเขาจน
จนไม่มีอะไรจะกินนะคะ พ่อแท้ๆของเขาเป็นอธิบดีทางด้านการศึกษา
แต่ที่เขาเรียกว่าพ่อจนเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนกันมากขึ้นระหว่าง
ความคิดคนของคนสองคน พ่อรวยของเขาเป็นผู้ที่รวยที่สุดในเกาะแมนฮัตตั้น

ประสบการณ์ปัญหาด้านการเงินตลอดชีวิตของพ่อจน
ทำให้คำสอนพ่อรวยของโรเบิร์ต ถูกสนับสนุนมากยิ่งขึ้น
ที่ว่า “คนจนและคนชั้นกลางทำงานเพื่อเงิน ในขณะที่คนรวยใช้เงินทำงาน”

https://i0.wp.com/webarchive1.richdad.com/Resource/Image/whoisrichdadnew.gif

หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จเป็นนักขายที่มียอดการขายสูงอันดับหนึ่ง
ในบริษัท XEROX โรเบิร์ตเริ่มต้นทำตามความปรารถนาของเขา
ที่จะมี อิสรภาพทางการเงิน เขาเริ่มสร้างธุรกิจข้ามชาติ
มูลค่าเป็นล้านๆเหรียญสหรัฐอยู่หลายธุรกิจ
และท้ายที่สุดก็สามารถเกษียณอายุได้ด้วยอายุเพียง 47 ปี

เขาต้องการทำตามความเชื่อของเขาที่ความปรารถนาจะสอนผู้อื่นให้เป็นผู้ร่ำรวย
และสามารถค้นหาธุรกิจที่พวกเขาต้องการได้ ในปี 1997 (พ.ศ. 2540)
โรเบิร์ตได้เขียนหนังสือขายดี โด่งดังไปทั่วโลกเล่มแรก
ชื่อ พ่อรวยสอนลูก (Rich Dad Poor Dad)

https://i0.wp.com/www.radio.goldseek.com/landing2.jpg

เขาได้นำเสนอความแตกต่างของความคิดระหว่างคนจนกับคนรวย ไว้ในหนังสือของเขา
เช่น

คนจน เวลาเจอของที่อยากได้มักจะบอกกับตัวเองว่า เราไม่มีเงินซื้อ
คนรวย เมื่อเจอของที่อยากได้มักจะตั้งคำถามว่า เราจะซื้อมันได้อย่างไร?

คนจน มักจะคิดว่า เราทำไม่ได้
คนรวย มักจะคิดว่าทำอย่างไร

…..

โรเบิร์ต ยังกล่าวอีกว่าความแตกต่างระหว่าง คนจน กับ คนรวย
ไม่ได้แตกต่างกันนิดเดียวนะคะ แต่ว่าความคิดคนทั้ง2ประเภทนี้
แตกต่างกันจนอยู่คนละด้านเลย

โรเบิร์ต บอกว่า คนจนส่วนใหญ่จะชอบบอกว่า คนรวยเห็นแก่ตัว
แต่ที่จริงแล้วคนรวยส่วนใหญ่มีน้ำใจเป็นผู้ให้ ในขณะที่ คนจนส่วนใหญ่จะเห็นแก่ตัว

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอย่าพึ่งงง กำลังจะอธิบายว่าเพราะอะไร?
คุณโรเบิร์ตกล่าวว่า คนจนเห็นแก่ตัวก็เพราะชอบเรียกร้องสิทธิต่างๆมากมาย
จากรัฐบาลเช่นให้ช่วยเหลือสิ่งนั้น ให้ช่วยเหลือสิ่งนี้ และจะชอบกล่าวหา
ว่าบริษัทให้เงินเดือนน้อย ใช้งานหนัก ไม่ยอมปรับตำแหน่งให้เลย
(คุณโรเบิร์ตก็เคยเป็นพนักงานประจำมาก่อนและไม่ได้ ร่ำรวยมาก่อน)
ซึ่งจริงๆแล้วบุคคลเหล่านี้ไม่ได้ลองคิดเลยว่าคุณทำสิ่งต่างๆเพื่อบริษัทบ้างหรือยัง?

โรเบิร์ตบอกว่าที่คนรวยส่วนใหญ่เป็นคนมีน้ำใจก็เพราะว่าคนรวยชอบช่วยเหลือผู้อื่น
ยิ่งธุรกิจใดช่วยเหลือคนมากเท่าไร ธุรกิจนั้นก็ยิ่งรวย
เช่น โตโยต้าที่ทำรถยนต์ราคาถูกออกมา เพื่อจะช่วยให้คน
สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะของโรเบิร์ตชัดเจนเข้าใจง่าย นั้นคือ

” คุณจะยอมรับผิดชอบต่อสถานการณ์ทางการเงินของคุณเอง
หรือจะยอมรับคำสั่งของคนอื่นๆไปตลอดชีวิต ”

“คุณต้องการที่จะเป็นเจ้านายของเงิน หรือจะยอมเป็นทาสของเงิน”

คนส่วนใหญทำงานเพื่อเงิน แต่ไม่รู้วิธีให้เงินทำงานแทนเรา ซึ่งโรงเรียนก็ไม่เคยสอน
สอนให้เห็นความแตกต่างระหว่าง “หนี้สิน” กับ “ทรัพย์สิน”

หนี้สิน = รถ บ้าน โทรศัพท์ บัตรเครดิต สินค้าต่าง ๆ ที่ดูดเงินออกจากกระเป๋าเรามากกว่าดูดเข้า
ทุกอย่าง เรียก หนี้สิน เชื่อไหม คนจนชอบสะสมหนี้สินเพราะคิดว่าเป็นทรัพย์สิน

ทรัพย์สิน = ห้องเช่า ที่ดิน อาคารสำนักงาน หุ้น เครือข่ายผู้บริโภค(เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์)
ลิขสิทธิ์ สิ่งของต่าง ๆ ที่ดูดเงินเข้ากระเป๋าเรามากกว่าดูดออก เรียกว่า ทรัพย์สิน ซึ่งคนรวยชอบสะสม
( ตำรวจที่รวยที่สุดไม่ได้อยู่ในป้อมตำรวจ แต่อยู่ที่ลอนดอน เพราะเขาสะสมทรัพย์สินไง)

แล้วคนรวยเขาก็มี บ้าน รถ สินค้าฟุ่มเฟือย มากมายนี่ แต่ทำไม่เขาถึงรวย ??????

—– เพราะคนรวย ก่อนที่เขาจะรวยนั้น เขาสะสมรายได้ ลดรายจ่าย
เพื่อซื้อทรัพย์สิน และเมื่ือเขามีทรัพย์สินมากแล้ว คราวนี้ เขาอยาก ซื้ออะไรเขาก็ซื้อได้

ก่อนที่โรเบิร์ต จะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้เขาก็เคยลำบากมาก่อนนะคะ
เริ่มแรกเขาทำงานเป็นเซลล์ หลังจากนั้นก็ไปเป็นทหารและไปออกรบที่เวียดนาม
หลังจากนั้นก็เริ่มทำธุรกิจส่วนตัว พอทำไประยะนึง ก็เกิดปัญหาขึ้นจึงต้องเลิกกิจการ
กลายมาเป็นคนถังแตก เขากับภรรยาของเขาเคยเกือบจะยอมแพ้แล้ว

ในเวลานั้นเขามี 2ทางเลือก
1.เดินตามความฝันสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจต่อไป หรือ
2.หันหลังให้ความฝันและเดินกลับไปเป็นพนักงานประจำ
แน่นอนว่าวันนี้เขาคงรู้สึกดีมากที่ไม่ยอมแพ้กลางคัน
เพราะปัจจุบันตอนนี้เขาเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว
จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการเขียนหนังสือและจัดอบรมสัมมนาต่างๆ

แล้วเพื่อนที่อ่านบทความนี้อยู่ล่ะคะรู้สึกเหนื่อยหรือรู้สึกท้อ
จากเหตุการณ์บางอย่างบ้างไหมคะ ยังไงซะก็อย่าพึ่งยอมแพ้นะคะ
เพราะความสำเร็จอาจจะรออยู่ตรงข้างหน้าก็ได้

เมื่อคุณเปลี่ยน วิธีคิด ความเชื่อ คุณจะเปลี่ยน
เมื่อคุณเปลี่ยน ความเชื่อ ความคาดหวัง คุณจะเปลี่ยน
เมื่อคุณเปลี่ยน ความคาดหวัง ทัศนคติ คุณจะเปลี่ยน
เมื่อคุณเปลี่ยน ทัศนคติ พฤติกรรม คุณจะเปลี่ยน
เมื่อคุณเปลี่ยน พฤติกรรม การกระทำ คุณจะเปลี่ยน
เมื่อคุณเปลี่ยน การกระทำ วิถีชีวิต คุณจะเปลี่ยน

เมื่อคุณเปลี่ยนความคิด…วิถีชีวิตคุณจะเปลี่ยน

ใครที่อยากทราบว่าหนังสือที่เขาแต่งเป็นอย่างไรบ้าง
ลองไปหามาอ่านเพิ่มเติมกันดูได้นะคะ
เราลองหาชื่อหนังสือตระกูลเขามาให้ดูนะคะ

  • เกมกระแสเงินสด (Cash flow 101 หรือเกมส์แข่งหนู)
  • Rich Dad’s Cash Flow Quadrant (พ่อรวยสอนลูก เล่ม2 เงินสี่ด้าน)
  • Rich Dad’s Guide To Investing (พ่อรวยสอนลงทุน)
  • Rich Kid Smart Kid (สอนลูกให้รวย)
  • Retired Young Retired Rich “เกษียณเมื่อหนุ่ม เกษียณอย่างร่ำรวย”

 

Choose To Be Rich

If you want to be rich you need to learn to think like the rich, learn what the rich know and most importantly do what the rich do. The rich teach their children how to convert earned income into either passive income or portfolio income that will provide the cash flow to live the life they want to live.

To become rich you need to first change the way you think about money because your thoughts lead to your actions that lead to results. If you were raised poor or middle-class, chances are that you were not taught the fundamentals you need to become financially free for life. By having a personal coach, you can take these principles and quickly apply them in your life. You’ll have the feedback and encouragement you need to get out of the Rat Race—just like my rich dad did for me.

—Robert Kiyosaki
https://www.richdadcoaching.com

AIM STAR Reality

มาตรฐาน

สวัสดีทุกคนที่หลงมาด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ^^”

ออกตัวก่อนเลยว่า blog นี้ไม่ใช่ AIM STAR offical site แล้วก็คงดูไม่เหมือนอยู่แล้วอะนะ เปิดมาเพื่อบันทึกความในใจ และประสบการณ์จริงของเราเอง อาจจะผิด อาจจะถูก ชอบใจไม่ชอบใจก็แล้วแต่ท่าน ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นจากมุมที่เราเจอมาเองจริงๆ

ME & MLM

เราไม่เคยทำธุรกิจเครือข่าย MLM ที่ไหน เคยแต่ไปนั่งฟัง, เข้าคลาส สาธิตนั่นนี่ อะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายอย่างมากก็แค่ “สมัครเป็นผู้ใช้” ไม่เคยทำเป็นนักธุรกิจซักที …เพรา่ะส่วนตัวเป็นคนดื้อ และต้องการเหตุผลอะไรมากพอสมควร เป็นนิสัยตั้งแต่เด็กแล้ว ขนาดที่บ้านถามว่าจะไปห้่างxxxไหม? ยังคิดเลยนะ ถ้าไปแล้วทำอะไร ถ้าไม่ไปแล้วทำอะไร ไปแล้วได้กินไอศครีม ไม่ไปแล้วได้ดูทีวี อะไรคุ้มกว่าอยากทำอะไรมากกว่า ฮ่าฮ่า ขนาดนั้นเลยเชียว จะว่าเพี้ยนก็ได้ แต่เป็นแบบนี้มาตลอดอะ

กับที่อื่นเลยไม่ต้องพูดถึง A G M H Z หาเอาว่าอะไรกันบ้างเน๊อะ อิอิ เพื่อนทำกันครบ ! พอดีเพื่อนเยอะด้วยไงก็เลยมีทำกันซะครบเลย ต่างคนก็ต่างมีจุดยืนของตัวเอง เชื่ออะไรก็เชื่อกันไปเน๊อะ ไม่ว่ากัน ลองฟังเปิดใจกันหมดทุกค่าย บางคนก็ทำมันสองอย่างเลยก็มี เปรียงดั่งค้าส่ง เอาอะไรมีโม๊ดดดดด ^^ แต่ถ้าคุยแล้วไม่เอาด้วยก็จบนะ คือไม่มีตื้อ ไม่มีจิกกัน โอเคแบบนี้ก็คบกันได้ ส่วนตัวเราถ้าเจอเพื่อนประเภท ต้องเอาให้ได้ ต้องปิดให้ได้ เป็นไงไม่รู้แหล่ะ “สมัครก่อนเหอะ” แบบนี้ไม่เอานะ คือมันไม่ใช่มาหวังดีกับเราแล้วแหล่ะ มันหวังดีกับตัวมันเอง แล้วอนาคตอยู่กับคนที่ไม่หวังดี มันจะดีหร่อ?

ปกติใช้แต่สินค้าอย่างเดียวไม่ได้ทำหรอกธุรกิจ คิดว่าทำไม่ได้หรอกเราคงไม่รุ่งกับแนวนี้ เพื่อนเยอะก็จริงแต่เราไม่ชอบตื้อใคร ส่วนมากที่เจอๆมาต้องมานั่งรักษายอดสูงๆ ซึ่งถ้าเราไม่ได้ไปขายใคร ยอดไม่ถึงแล้วเราอยากได้ส่วนลดหรือสะสมอะไรก็แล้วแต่ เราก็ต้องซื้อเอง (ก็ไม่ไปตื้อคนอื่นก็ต้องซื้อเอง…เป็นธรรมดา) กลายเป็นภาระชีวิตไปซะอีกแน่ะ คิดแล้วก็เลยไม่ทำซะเลยดีกว่า กลัวเสีัยน้อยเสียยาก (อยากได้ของดีๆถูกๆส่วนลดเยอะๆ) เสียมากเสียง่าย (รักษายอดไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะได้ส่วนลดเยอะๆ) ขอเป็นผู้ใช้แบบนี้แหล่ะสบายใจดี

ME & น้ำมันรำข้าว

ครั้งแรกที่เจอสินค้าของ AIM STAR เค้าก็คือตัวเด่นดังของเค้าอะแหล่ะ น้ำมันรำข้าวจมูกข้าวชนิดแคปซูล(Rice Bran and Germ Oil Capsules) พอดีป้าป่วยแล้วมีคนมาแนะนำแม่ว่า ทานอันนี้ซิดีอย่างนั้นอย่างนี้ บางคนเป็นมะเร็งทานไปก็หาย แม่ก็อยากจะซื้อมาลองให้ป้าทาน แต่ดันเอาชื่อเราไปสมัครสมาิชิก เพราะเค้าเห็นว่าถ้ามันดีจริงก็อยากให้เราทำไป ตัวเค้าเองทำไม่ได้หรอก สมัครก็คงทำไม่เป็น ไม่รู้เรื่อง ไม่มีเวลาอะไรของเค้าเนี่ยแหล่ะ ก็มาบอกเราขอเอกสารนั่นนี่ เราก็เออๆๆ เอาก็เอา เอาไปซิ แต่ไม่ทำนะ ไม่ว่าง ยุ่ง !!

เป็นสมาชิกใช้สินค้ามาแบบงงๆนับแต่นับมา [ สมาชิกซื้อสินค้าราคาพิเศษ ไม่ได้สมัครทำธุรกิจนะคะ ] แล้วก็ไม่ได้แตะอีกเลย เพราะแม่ซื้อแบบแพคมาเลยนะ กินไปได้ไม่ถึงเดือน ป้าก็มีอันจากไปซะก่อน (คุณป้าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย รวมหลายที่นะคะ 4-5 ที่ได้ สมองจุด ปอดจุด คือเป็นแบบกระจายอะคะ ยาไหนๆก็ช่วยไม่ทันซึ่งคุณหมอก็บอกให้ทำใจมาหลายเดือนแล้ว เค้าเองก็ไม่ยอมทานด้วย ทาน4-5วันก็ไม่เอาล๊ะ ขอเราไม่ทานได้ไหมยาเค้าเยอะอยู่แล้วเกือบสิบเม็ด – – ) หลังจากนั้นเราก็ลืมไปเลยเรื่องอาหารเสริมอะไร ยุ่งเรื่องอื่นของเค้ามากกว่า เอกสารคอนดงคอนโด นี่นู่นมากมายค่ะ

ผ่านไปก็กลับมาทำงานทุกวัน ๆ ๆ ๆ ตามเดิม คุยกับ supplier เมืองนอกเวลาก็กลับกันเหนื่อย…นอนตี 1 ตี 2 นี่เกือบทุกวัน ตี 3 ตี 4 นี่ก็เริ่มมาเยี่้ยมบ่อย จนแบบไม่ไหวนะ รู้สึกว่าอายุเยอะขึ้นทุกทีๆ กลัวตายก่อนวัยอันควร กลัวไม่สวยด้วย (ประเด็นหลังนี่สำคัญมาก) เลยต้องหาตัวช่วยหน่อยวิตามิน อาหารเสริมอะไรกินซะหน่อย หาไปหามา มีหลายคนในเนทบอก “น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว” ดีมากเลย แต่ไม่บอกชื่อนะ

เราก็มาหาข้อมูลต่อ บอกแล้วว่าเป็นคนจริงจังกับข้อมูล เป็นเด็กดื้อเชื่ออะไรยาก เหตุผลต้องตรึมๆ .. เอ๊ะ คุ้นๆ น้ำมันรำข้าวจมูกข้าวชนิดแคปซูล(Rice Bran and Germ Oil Capsules) นี่เรามีนี่นา โทรไปถามแม่เลย “แม่…อยู่ไหนอะ จะลองกิน ตอนนั้นซื้อมาเยอะแยะเลยนิ” แม่บอก “อ้าว…จะกินเร๊อะ ขายคืนเค้าไปแล้วอะ” งานเข้าเลยทีเดียว จะกินๆๆ เอาไงดีละ คนที่ชวนแม่ก็ไม่รู้จัก คือวันนั้นที่เจอแม่เค้ามาโรงเรียนพอดีอะ (แม่เป็นครู) ไม่ได้เป็นเพื่อนอะไรกันมาก่อน

ไม่กินก็ได้ว๊ะ !! ….

หลายเดือนต่อมา…

ไปเที่ยวกะเพื่อนสนิทคนนึง คบกันมาสิบกว่าปีล๊ะ ก็คุยกันนู่นนี่นั่น เรื่องที่บ้าน ครอบครัวเป็นอะไรยังไง มันบอกแม่ดีขึ้นแล้วนะ ค่านู่นนี่ตรวจแล้วก็ลดลง พี่ชายเอาอะไรมาให้กินก็ไม่รู้ “น้ำมันรำข้าว” ไรเนี่ยแหล่ะ อ้าวเฮ้ยๆ aimstar ปะ? มันบอกเออ…ใช่ๆ เราก็เอาละ มีคนใกล้ชิดสนิทกันรู้เรื่องแล้ว “แก…ชั้นฝากซื้อได้ปะอะ แต่ชั้นเคยเป็นสมาชิกอยู่แล้วนะ ทำไงดีว๊ะ คือคนที่แนะนำชั้นๆก็ไม่รู้จัก (เค้าผ่านแม่มา คือเค้าก็คงอยากอธิบายแหล่ะแต่ไม่เจอไง)” มันก็บอก เออๆเดี๋ยวบอกพี่ให้นะ !!

ME & AIM STAR

พี่ชายเพื่อนก็มาคุยด้วย พี่เค้าอธิบายให้ฟังเรื่อง aim star นั่นนี่อันนี้ คร่าวๆที่เราจำได้ก็คือ บริษัททำอะไรยังไง มีอะไรบ้าง แผนธุรกิจเป็นยังไง ทำไมพี่เค้าถึงมาทำเพราะดูแล้วหลายคนว่าไม่น่าเชื่อว่าจะทำ พี่เค้าเป็นสจ๊วตนะ ซึ่งถามว่าเงินเดือนดีไหม? ก็ดีแหล่ะ…แต่ถ้าไม่ได้บินก็ไม่เท่าไหร่ ซึ่งก็ค่อนข้างคล้ายกับเรานะ เดือนๆนึงรายได้ก็พอใช้ได้ แต่เหนื่อยมากกว่า อย่างที่บอกนอนดึกบ่อยๆ บางทีก็ป่วยบ้าง นอนไม่หลับบ้างมันผิดเวลา แล้วมันก็ส่งผลกับงานของเราถ้าเราป่วย ทำงานไม่ได้ เงินก็เข้า จริงๆไม่ต่างจากแม่ค้ารถเข็นเลยแหล่ะ ถ้าป่วยก็ไปขายของไม่ได้ แล้วใครจะเอาเงินมาให้??

พี่เค้าจบคณะเดียวกับเรา ด้านการเงินอะนะ ก็รู้ถึงขีดจำกัดข้อนี้พอควรเลยพยายามหาทาง “ให้เงินทำงาน” มาตลอด เคยได้ยินใช่ไหมคะ ลงทุนในหุ้นบ้าง หุ้นกับเพื่อนทำนู่นทำนี่บ้าง มันก็ได้รายได้แต่ก็ยังไม่พอที่จะทำให้เราหยุดทำงาน และดูแลครอบครัวได้

ถ้า มองว่า aim star network เป็นอีกทางนึง ที่เราสามารถเข้าไปลงทุนกับเค้าได้ ของดีทานเองได้สุขภาพดี แผนดีแนะนำคนอื่นต่อแล้วทำให้เราโตได้ไปด้วยกันได้ win-win ทุกฝ่าย มันก็น่าจะดี ส่วนตัวเราชอบแผนของที่นี่นะ เพราะมันดูแฟร์มาก เข้ามาทีหลังหรือเข้ามาก่อนก็คิดเกณฑ์เดียวกันได้รับรายได้ครบทุกทางเหมือน กัน ไม่ต้องรักษายอดแบบขั้นบันได ซึ่งเราบอกตรงๆว่าเรารู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับคนที่เข้าใหม่ มันดูค่อนข้างยากที่จะเป็นไปได้สำหรับเรา ย้ำว่า สำหรับเรานะ เพราะอาจจะมีคนเถียงว่า แผนแบบนั้นแบบนี้ดี…แต่สำหรับเรารู้จักตัวเองดีว่า เราไม่ชอบตื้อใคร ไม่ชอบบังคับใคร และ stair step มักจะทำให้คนเราต้องทำแบบนั้น ไม่อยากทำก็เหมือนบีบให้ต้องทำ

กลับมาต่อเรื่องของเราดีกว่า ยิ่งเราดูรายละเอียดสินค้าเยอะๆ ยิ่งสนใจใหญ่ อยากลองทานแล้ว แต่..ติดนิดนึงว่าเราเคยซื้อแล้ว เคยเป็นสมาชิกแล้วแต่หาอัพไลน์ไม่เจอ ทำยังไง? พี่เค้าก็บอกว่าจะดูให้นะ ถ้ายังใช้ได้ก็ซื้อได้เลยไม่ต้องสมัครใหม่

เราเองไม่ได้เป็นคน “ปิดใจ” (แอนตี้เครือข่าย ไม่เอา ไม่ฟัง) แต่ก็ไม่ถึงขั้น “เปิดใจ” กับธุรกิจเครือข่าย คือยังไงอะ ก็มองว่ามันดีแหล่ะ แต่เราคงไม่เหมาะ คงทำไม่ได้หรอก อะไรประมาณนี้ แต่อย่างที่บอกกับ aimstar พอดูแผนแล้วก็เออ …มันต่างนะ มันทำแค่ 2 สายงาน รักษายอดก็ไม่ได้มากมาย 900 บาทต่อเดือน ค่าโทรศัพท์ก็เกินแล้วเหอะ ถ้าสินค้ามันดีจริงเราใช้คนเดียวเรื่อยๆก็ได้แล้วนะ ไม่ต้องไปพยายามยัดเยียดให้คนอื่นซื้อเน๊อะ ถ้ามีมาก็แนะนำแค่นั้น แลดูโอเค เป็นไปได้ …ก็อยากทำแต่ติดนิดๆเรื่องเคยเปิดไว้แล้ว กับคนที่ติดต่อไม่ได้นี่แหล่ะ [ บอกจากใจว่า ถ้าพี่เค้าเชคแล้วต้องทำกับอัพไลน์เดิมเท่านั้น เราก็ไม่ทำเพราะไม่รู้จัก เราขอฝากซื้ออย่างเดียวแล้วกัน ]

Do it

เย็นวันนั้นพี่เค้าบอกเลย สมัครได้นะ เพราะอันเก่าที่เราเคยซื้อมันเกินปีล๊ะ ไม่ได้ซื้อต่อเลย รหัสตัดหมดอายุแล้ว — เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่า ดีใจจังที่บัตรหมดอายุ !!! ฮ่าฮ่า เพื่อความชัวร์ว่าจะลุยจริง นั่งเคลียร์ตัวเองก่อน สงสัยอะไรไหม? เอาแน่นะ connection ก็เยอะนะเว่ยถ้าเปิดแล้วมันไม่ดีจริงนี่เสียหายนะคะ ถ้าลงไปลุยจริงๆ เสียรายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ คุ้มกันไหม โห้ย…คิดเยอะอะ คุยกับเพื่อนด้วย สรุปได้ว่า “แกเอาชั้นก็เอาด้วย” ไปด้วยกันไปได้ไกล ^^ ตัดสินใจลุย !!! อย่างน้อยที่สุดก็ได้เจอเพื่อนฝูง ไปทำอะไรๆด้วยกันแก้เบื่อ แก้เหงา (เราไม่ได้ทำงานประจำ ทำธุรกิจส่วนตัว …ส่วนตัวจริงๆ ทำเองทุกอย่าง) แต่อย่างมากที่สุดมันจะตอบโจทย์ชีวิตเราได้ เลี้ยงดูครอบครัวให้สบายกว่านี้ โดยที่เราเองก็สบายตัวด้วยได้

เราสมัครสมาชิก 300 เดือนก.ค. 54 แล้วปิดยอด SV เลย เพราะอย่างที่บอกเราสนใจตัวสินค้าอยู่แล้ว จะชวนคนอื่นได้อย่างสนิทใจก็ต้องเริ่มที่ชวนตัวเองก่อน ใช้แล้วดีจึงบอกต่อ ถ้าใช้ไม่ดีแล้วบอกนี่มันก็อายเพื่อนเหอะ … แล้วก็ตามด้วยเข้าระบบ 745 ของ Cover Group ตาม UL (อัพไลน์) พี่ชายเพื่อนนั่นแหล่ะแนะนำ

TIME LINE
บันทึกการเดินทางกับ AIMSTAR
  • มกราคม 53 : สมัครซื้อเพราะเค้าว่าของดี เีกลียดขายตรง ไม่เปิดใจฟัง Smiley
    สมัคร สมาชิก aimstar เพราะจะซื้อ “น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว” ตั้งใจจะให้คุณป้าทาน (ป้าเป็นมะเร็งหลายที่ ระยะสุดท้ายหมอให้ทำใจ รักษาตามอาการที่บ้าน) ปิดยอด SV ด้วยซื้อแพค 8 กระปุกมาเลย 1,000PV จริงๆทำเป็น business ได้นะ แต่ไม่ได้ทำเพราะไม่ได้สนใจทำความเข้าใจแผนเลย เข็ดเจอมาเยอะ am… อะไรก็เคยฟังมาหมดล๊ะ รู้สึกว่าต้องรักษายอดสูงๆ ไม่เหมาะกับเรา เราไม่ชอบตื้อคน เปิดร้านขายของในเนทเรายังไม่ตื้อลูกค้าเลยอะ เราเชื่อว่าของเราดี เลือกมาดีแล้วจริงๆ ไม่ได้เลือกแค่ถูกๆๆ คุณภาพไม่สนใจ ฉะนั้น ลูกค้าโอเคก็คือโอเค ไม่โอเคก็ลองหาที่อื่นดูก่อน ถ้าดีกว่าก็ซื้อกับที่อื่นไม่ว่ากันอยู่แล้ว ..แล้วอีกอย่างที่สำคัญเลยคือ คนที่มาแนะนำ เป็นใครไม่รู้ แม่เจอที่ทำงานผ่านแม่มา เราเลยไม่ได้คุยกันเลย แม่เอาชื่อเราไปสมัครเพราะเค้าก็หวังดีคิดว่า เผื่อเราทำเป็นธุรกิจ เพราะตัวเค้าคงไม่เข้าใจ ทำไม่ได้ เราก็โอเคๆ สมัครให้ ซื้อแล้วก็จบครั้งเดียว
  • เมษายน 53 : คนป่วยไม่ได้ทาน ขายทิ้ง Smiley
    คุณ ป้าเสีย… “น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว” เหลือเยอะแยะ เพราะตั้งแต่ซื้อมาป้าทานไปแค่ 4-5 วันละมั้ง เค้าก็บ่นอุบอิบ ด้วยที่ยาปกติเค้าก็เยอะอยู่แล้ว มื้อนึงเกือบสิบเม็ด หลังๆเลยตามใจ ไม่ทานก็ไม่ทาน คนที่บ้านที่เหลือเลยทานเอง แล้วก็ขายต่อคนอื่นไปด้วย คนที่เค้าอยากทา่น
  • มีนาคม 54 : สนใจดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้น หาของดีๆใส่ตัว Smiley
    ทำงานหนักมากกกกกก กินวิตามินบำรุงเยอะสุดๆ กลัวตัวเองป่วยแล้วทำงานไม่ไหว จะเสียโอกาสโกยเงิน กำลังขาขึ้นเลย ของที่ร้านก็ขายดีสุดๆ // หาข้อมูลไป หาข้อมูลมา นึกถึง “น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว” ขึ้นมา อยากเอามาลองกินบ้างแห๊ะ ถามแม่ดูแม่้บอกขายไปหมดแล้วเห็นไม่มีคนกินด้วย กินคนเดียวกินไม่ทัน อ้าว… อดกินเลยเรา
  • มิถุนายน 54 : ได้ยินอีกครั้ง ผลกับคนใกล้ตัว Smiley
    ไป เที่ยวพักผ่อนกับเพื่อนสนิท คบกันมาเป็น 10 ปีล๊ะ คุยกันทั่วไปอัพเดทมันบอกแม่ดีขึ้นแล้วนะ พี่ชายเอาอะไรให้กินไม่รู้ว่ะ “น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว” อ้ะ …เฮ้ย อยากได้อะ ฝากซื้อหน่อยดิ เคยเป็นสมาชิกแต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอะ เอากินอย่างเดียวได้ไหม? ฝากซื้อละกันนะ ชื่อแกก็ได้ :P
  • กรกฎาคม 54 : ฝากซื้อไม่สมัครได้ไหม เบื่อ MLM Smiley
    พี่ชายเพื่อนนัดเจอจะคุยเรื่อง aimstar เราก็นะ… ขี้เกียจอะ อย่างที่บอกเคยฟังอันอื่นมาเยอะแยะแล้ว เราคงทำไม่ได้ ไม่เหมาะกับงานอะไรแบบนี้หรอก ทำงานแบบทุกวันนี้เราก็ได้เยอะ พอสมควรแล้วนะ รายได้ดีกว่าทำงานประจำอยู่แล้วอะ // พี่เค้าก็พยายามนัดมาก… น่าฟังหน่อย ทีอันอื่้นยังฟังได้เลย ฟังแล้วไม่ทำด้วย อันนี้ก็เหมือนกัน ฟังแล้วจะไม่ทำก็ไม่เห็นเป็นไร จะฝากซื้อเหมือนเดิมก็ได้ ถ้าจะไม่ทำอะ แต่อยากให้ลองดูก่อน มันง่ายกว่า งั้นงี้งู้น … ก็ว่าไป เอาๆๆ ฟังก็ฟัง กะว่าถ้ามาเหมือนเดิมอีก รักษายอดสูงๆ ทุกเดือนๆๆ เหมือนเดิมคงไม่ทำอะ เบื่อซื้อของที่ไม่ได้อยากได้, ขายของที่คนอื่นไม่ได้อยากได้
  • 11 กรกฎาคม 54 : เปิดใจฟังด้วยความเกรงใจ Smiley
    พี่ชายเพื่อนมาหาที่บ้าน หนีบเพื่อนมาด้วย มันก็ฟังพร้อมเราเนี่ยแหล่ะ ขนาดเป็นพี่ชายแท้ๆของมันเลยนะ พี่มันยังไม่เคยบังคับให้มันขายมันทำ มันก็ทำให้เราสบายใจได้ในระดับนึง มันอาจจะไม่เหมือนอย่างอื่นจริงๆก็ได้ ถ้าเราไม่ทำคงไม่ลำบากที่จะพูดไป พี่เค้าคงเข้าใจแหล่ะ อยากได้แค่ “น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว” มากินอะแต่… พอฟังพี่เค้าพูด เอาเอกสารนู่นนี่ให้ดู ของเยอะนี่นะ นึกว่ามีตัวเดียว เคยได้ยินแต่ “น้ำมันรำข้าวจมูกข้าว” เลยสงสัยขึ้นมา แล้วอย่างอื่นดีไหม? พี่เค้าก็คุยให้ฟังสบายๆ ไม่่มีกดดันให้เราซื้อ ให้เราปิดยอดอะไรเลย สรุปเราสนใจเพิ่มอีกตัว “AG BLOC” ช่วยเรื่องลดอ้วน เบิร์นไขมัน กะว่าลองเองก่อนถ้าดีก็จะขายด้วย เพราะตัวเดิมเคยขายอยู่นะในเนตแต่เค้าเลิกผลิตแล้ว เดือนนึงเราขายได้เยอะอยู่นะ …พี่เค้าบอก “แนะนำได้ถ้าใช้ดีก็บอกต่อ แต่อยากไปขายแบบยัดเยียดใคร” เออ ไม่อยู่แล้วแหล่ะพี่ไม่ใช่นิสัย ก็ชอบนะที่พี่เค้าพูดมา แสดงว่าคิดเห็นตรงกัน รับไว้พิจารณา..
  • 13 กรกฎาคม 54 : ดูข้อมูลด้วยความเกรงใจ Smiley
    ได้ซีดี WELCOME CD มาก็วางแปะ… ผลัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยวค่อยดูก็ได้ฟังแล้วนิ สมัครอยู่แล้ว เพราะจะซื้อของ สินค้าไม่มีปัญหาเราเปิดใจอยู่แล้วเพราะเคยทานอยู่ และก็ยังอยากรับมาทานใหม่อีกครั้งพี่เค้าโทรมาถาม “ดูรึยัง? จัดเวลาซักชม.นะ กลางคืนก็ได้ดูไปสบายๆ รับรองคุ้ม ถ้าได้ดู” โอเคๆ ดูก็ได้ บอกตามตรงดูเพราะเกรงใจพี่เค้าถามบ่อยๆทุกวันว่าดูยัง? สงสัยอะไรไหม? ดูก็ได้ว๊ะ จะได้ดูเรื่องแผนธุรกิจด้วย ยังไม่ค่อยเคลียร์เ่ท่าไหร่ฟังผ่านๆ
    ลองดูถ้าดูคุ้มค่อยว่ากันเราก็ลองเปิดใจศึกษาดูจากเอกสาร + WELCOME CD ที่พี่เค้าให้มา มันช่วยได้มากจริงๆนะ เราว่า ดูซีดีไม่กดดัน ไม่อยากดูก็แค่ปิด ดูแล้วงงก็กลับไปดูใหม่ เท่าที่เคยดูมา คิดว่า Clover Group Welcome CD 2010 ทำดีนะ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า “เค้ามาอวดรวย” โชว์บ้านโชว์รถกันอย่างอย่างเดียว อยากมีอย่างผมไหมสมัครซิๆ อันนี้เค้าเกลียดมาก

    แต่ถามว่าในซีดีมีไหม? ก็มีแต่เป็นในลักษณะแสดงให้ คนเห็นว่า ก่อนเปิดใจ และหลังเปิดใจทำแล้วมีโอกาสอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง ผลของการทำงาน ชอบที่เค้าบอกว่า “ใช้ความขยันและตั้งใจจริง เรียนรู้” ไม่ใช้คำว่า “ต้นสาย มาก่อน รวยก่อน” มันคือการพัฒนาคน จะแค่ใช้เป็นสมาชิกที่แสนดี หรือจะลุยทำตามฝันเต็มที่เป็นหุ้นส่วนบริษัทก็ตาม มันเจ๋งตรงนี้ ไม่ใช่ลากใครก็ได้มาสมัครให้เต็มๆ เก็บกินค่าหัวคิวกันไปจริงๆเรื่องบ้าน รถ ไม่ค่อยเป็นแรงจูงใจสำหรับเราเท่าไหร่ เพราะเราก็มีแล้ว ถึงไม่หรูหราใหญ่โต ไ่ม่ใช่เบนซ์.. เราก็พอใจของเรา สิ่งที่พอจะทำให้เราสนใจดูซีดีต่อได้จนจบ คงจะมีเรื่องเที่ยวละมั้ง อยากมีเวลา มีอิสระทางการเงินไปเที่ยวไหนก็ไปได้ ไม่่ใช่ทำงานรวยเงินมากมายแต่ไม่มีแม้แต่เวลาซักเดือนที่จะไปไหนมาไหนได้ มันก็เหมือนดูจองจำกับงานเกินไป แล้วจะทำมาเพื่ออะไร? ไม่รู้นะ สำหรับเรา เวลาสำคัญสุด คนเราอยู่กันได้ไม่นานเท่าที่ใจอยากให้อยู่หรอก

    พ่อแม่เราจะอยู่อีกกี่ปีกี่เดือนก็ไม่สามารถจะรู้ได้ อยากทำอะไรให้เค้าสบายใจ พาไปไหนมาไหนได้ เที่ยวด้วยกัน ยิ้มด้วยกัน มีความทรงจำดีๆด้วยกัน ไม่ใช่ทำงานกันจนตายจากกันไป เงินที่หามาได้จะมีไว้เพื่ออะไร?

    เคยผ่าน ณ จุดนั้นมาแล้ว ตอนป้าป่วยนั่นแหล่ะ เราลาออกจากงาน บางคนก็ว่าบ้า โง่ เสี่ยง แล้วจะอยู่ยังไง? แต่เชื่อไหม เราคิดว่าคุ้มที่สุดที่ได้ทำแบบนั้น เงินเดือน แลกกับ เวลาที่ป้าเราเหลืออยู่ ไม่ถึงปี คิดยังไงก็คุ้ม พ่อกับแม่เรายังทำงานอยู่ ภาระเลยไม่มี เป็นส่วนนึงที่ทำให้เราตัดสินใจง่ายด้วยซ้ำ เพราะถ้าเราไม่ออกไม่แม่ก็เราเนี่ยแหล่ะต้องลางานพาป้้าไปหาหมออยู่เรื่อยๆ เราพาไปเอง ให้แม่เราไม่ต้องลาดีกว่า คิดแล้วไม่ค่อยมีภาระอะไรจริงๆมีแต่ตัวเอง แค่ให้มีข้าวกิน 3 มื้อโอเคล๊ะ

    เลยคิดว่าไม่ได้ลำบากอะไร อยู่บ้านก็มีกินอยู่ แต่เชื่อไหม ถ้าวันนั้นเราไม่คิดและทำแบบนั้น เราก็คงไม่ได้มีเวลานั่งทำร้านขายของออนไลน์ที่เราพยายามทำอยู่หลายปี แต่ไม่มีเวลา ทำงานประจำกว่าจะุึกลับบ้านเหนื่อยหมดพลังทุกวัน เสาอาทิตย์ก็อยากนอนเฉยๆ เหนื่อยมาก แต่พอเราลาออกมาอยู่กับป้า เราก็ใช้เวลาที่ป้าเรานอน หยิบคอมมานั่งทำเวปไปด้วย ทำไปเล่นๆขายได้ไม่ได้ ถือว่าได้ทำตามที่ตั้งใจอยากจะมี แต่ทำมาไม่กี่เดือนดันทำรายได้จริงจังให้เรามากกว่าทำงานประจำซะอีก

    ครั้งนี้ อาจจะเหมือนกัน โอกาสที่ผ่านมา “ใครเจอเรา คนนั้นโชคดี”
    เราเป็นหนึ่งในคนที่โชคดีไหม? ไม่รู้หรอกแต่รู้ว่า มันดีกว่าทำคนเดียวแน่นอน
    มีที่ปรึกษาดีกว่าไม่มี และคำนวณแล้วไม่มีอะไรที่เสี่ยงเลย …

    แผน ธุรกิจที่ คุณทอม ธเนศ ลีลาภรณ์ อธิบายไว้ใน WELCOME CD เคลีย์มาก ว่า…มันก็ต่างจากที่เคยฟังมานะ ทำแค่ 2 สายงาน รักษายอดก็ไม่ได้มากมาย 900 บาทต่อเดือน ค่าโทรศัพท์ก็เกินแล้วเหอะปกติอะ ถ้าสินค้ามันดีจริงเราใช้คนเดียวเรื่อยๆก็ได้แล้วนะ ไม่ต้องไปพยายามยัดเยียดให้คนอื่นซื้อเน๊อะ ถ้ามีใครถามหรือเจอใครสนใจก็แนะนำไปแค่นั้น แลดูโอเค เป็นไปได้… แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่า เราจะทำได้เยอะแยะอะไรมากมายแบบคนอื่นเค้า ลองดูก็ไม่เสียหาย เราก็ใช้เองอยู่แล้ว ในใจคิดแบบนี้นะ

  • 14 กรกฎาคม 54 : ไป Center เพื่อลองของ
    ( ไม่ใช่ทดลองสินค้านะ เพราะไม่มีขายซักชิ้น ) Smiley
    ลอง ไปฟังจริงที่ CENTER ดู พี่เค้าบอกว่า “ซักครั้ง จะได้เห็นว่าไม่เหมือนที่อื่นที่เคยไปมา” เอาไปๆๆ ไปลองของกันดีกว่าว่ามันเป็นอย่างที่ว่าไหม? ระบบไม่เน้นขาย ไม่ต้องง้อ ตื้อ ใครจริงหรือไม่? aimstar หลอกรึเปล่า…เข้าห้อง VIP ห้องสำหรับคนที่มาใหม่ เค้าก็จะพูดคล้ายๆกับที่พี่ชายเพื่อนพูดให้ฟังแหล่ะ บริษัททำอะไร เป็นยังไงมายังไง มีสินค้ากี่ประเภท เด่นๆมีอะไรบ้าง แผนการพัฒนา แนวทางถ้าเราจะจอยธุรกิจด้วย …ดูแล้วตรงกับที่เข้าใจคือ ไม่เน้นสร้างทีมขาย ให้เราไปไล่ขายของคนอื่น หรือแม้แต่สต๊อกของไว้เอง เพราะต้องรักษายอดรวม จะได้ส่วนลดเยอะๆแบบที่อื่น (ไม่ระบุว่าที่ไหน แต่คงพอนึกออกเน๊อะ) ส่วนที่ aimstar แผนธุรกิจจะแบ่งเป็น 2สายงาน เน้นสร้างเครือข่ายแบบช่วยกัน ชวนคนมากินมาใช้หลายๆคน แต่ใช้คนละน้อยๆ ยอดแค่ 900 ใช้นา่นๆใช้ไม่เลิก เม็ดเงินในเครือข่ายมากขึ้น เราก็สะสมไปได้มากขึ้น ยอดที่ได้อยู่ที่ความขยันในการสร้างเครือข่าย ให้คนเข้าใจระบบ มากกว่า ขยันพูดขยันขายของให้คนมาซื้อเยอะๆ พอท้อใจไม่ถึงเป้าที่จะได้เงินคืนก็เลิกไป บอกว่า MLM ไม่ดี ระบบเครือข่ายแย่ หลอกลวง (- -”)
  • 28 กรกฎาคม 54 : เคลียร์ตัวเอง follow up Smiley
    จะสิ้นเดือนแล้ว อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้สื่อมาดูเพิ่มมากมาย upline ดีๆมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ถึงพี่เค้าจะไม่ค่อยมีเวลา เพราะบินด้วย พี่เค้าเป็นสจ๊วตอะ แต่ถ้าไม่อยู่ไทยก็ยังจะ whatsapp ส่งข้อความมาอัพเดท ให้คำปรึกษาตลอดนะ คุยกันสบายๆ ไม่กดดันต้องไปมีลูก ไปมียอดมา แต่ก็ให้กำลังใจกันมากกว่า เออหร่อๆ ไม่เป็นไรนะ คนไหนเปิดแล้วเค้าไม่สนใจก็ปล่อยไปนะวันนึงเค้าอาจจะสนใจก็ได้ เหมือนเราไง :)ณ วันนี้เรากล้าพูดกล้าบอกคนอื่นว่าเราทำ aimstar นะเพราะเรามั่นใจว่าเราแนะนำสิ่งดีๆ ให้เค้า เค้าจะรับหรือไม่รับก็แล้วแต่เค้า บังคับกันไม่ได้อ่าน…ข้อมูลประสบการณ์ใน BLOG กันต่อได้เลยนะคะ

    ———————————————

    เรียนรู้ไปด้วยกัน Smileyเพราะเราเป็นองค์กรการเรียนรู้ :)
    ไม่ใช่เครือข่ายนักขาย

    ….

เดือนต่อๆไปจะเป็นอย่างไรก็ติดตามกันต่อไปนะคะ 🙂